โครงการฝึกช้างและพัฒนาคุณภาพช้างเลี้ยง ( 5 เชือก) สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้
1. หลักการและเหตุผล
ในอดีตช้างมีความสำคัญในด้านการศึกสงคราม เคยช่วยพระมหากษัตริย์ไทยกอบกู้เอกราช และได้ถูกกำหนดให้เป็นสัตว์สัญลักษณ์ประจำประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม 2544 เป็นต้นมา ด้วยที่ประเทศไทยเคยมีช้างเป็นจำนวนมาก และมีความผูกพันกับคนไทยจนเสมือนหนึ่งเป็นสมาชิกในครอบครัวคนเลี้ยงช้าง ประกอบกับเป็นสัตว์ที่มีพละกำลัง ฉลาด นิสัยไม่ดุร้าย สามารถนำมาฝึกใช้งานได้ คนไทยในทุกยุคทุกสมัยจึงได้มีการนำช้างมาฝึกช่วยใช้งานต่างๆ หนึ่งในอาชีพที่เรามักจะนึกถึงและเกี่ยวข้องกับช้างคือ อาชีพการทำไม้ด้วยช้าง ซึ่งมีเพียงไม่กี่ประเทศในแถบเอเชียที่ใช้ช้างในการลากไม้ ช้างจึงเป็นสัตว์ที่มีบทบาทสำคัญในงานอุตสาหกรรมทำไม้ ล่วงมาปี พ.ศ. 2512 ศ.ดร.อำนวย คอวนิช อดีตผู้อำนวยการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ได้ก่อตั้งศูนย์ฝึกลูกช้างแห่งแรกของโลกขึ้น เพื่อฝึกช้างช่วยในการทำไม้ และเพื่อดูแลลูกช้างและแม่ช้างได้ทำงานด้วยความปลอดภัย
ในปี พ.ศ. 2532 รัฐบาลได้มีการปิดป่าสัมปทานป่าไม้ทั่วประเทศ ช้างที่เคยมีงานทำอยู่ได้ตกอยู่ในสภาวะการตกงานอย่างกะทันหัน และไม่ใช่เพียงช้างเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องไปถึงควาญช้างและเจ้าของช้างที่ดูแลช้างอีกด้วย ดังนั้นการดิ้นรนเพื่อการเอาตัวรอด เจ้าของช้างจึงได้มีการนำช้างไปลักลอบชักลากไม้ที่ผิดกฎหมาย บางคนใช้สารเสพติดหรือการบังคับทุกวิถีทางให้ช้างทำงานให้ได้มากที่สุด เพื่อความอยู่รอดของเจ้าของช้าง บางคนได้นำช้างของตัวเองเข้าสู่ธุรกิจการท่องเที่ยว และมีบางเชือกได้กลายเป็นช้างเร่ร่อนย้ายจากป่าเข้าสู่ในเมือง หรือบางเชือกถูกขาย หรือบริจาคให้กับหน่วยงานของรัฐนำไปดูแลต่อไป ด้วยเหตุผลหากจะนำช้างปล่อยกลับเข้าสู่ป่าอาจทำให้ไม่สามารถอยู่รอดได้ เพราะสภาพป่าไม้ที่ไม่เหมาะสมกับการดำรงชีวิตของช้าง รวมถึงการฝึกช้างที่ไม่มีระบบมาตรฐานหรือหลักสูตรที่ยอมรับ มีการฝึกช้างแบบผิดวิธีจนเกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิต สวัสดิภาพของช้างจึงถูกสังคมจับตามองมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะชาวต่างประเทศ องค์กรรักษ์สัตว์และนักอนุรักษ์สัตว์ต่างๆ ที่ต้องการให้ช้างมีคุณภาพชีวิตและมีสวัสดิภาพที่ดี กอปรกับได้มีการจัดทำพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ ปี พ.ศ. 2557 จึงได้มีการจัดระบบการฝึกช้างและสวัสดิภาพของช้างใหม่ เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของสังคมโลกและตอบคำถามได้ โดยไม่ทิ้งรากเง่าทางวัฒนธรรมการเลี้ยงช้างของไทยด้วย
สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ได้ตระหนักเห็นความสำคัญของการฝึกช้างอย่างถูกวิธี มีระบบแบบแผน หลักสูตรเป็นที่ยอมรับของผู้เกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและสุขภาพของช้างในประเทศไทย ตลอดถึงคุณภาพชีวิตและความรู้การดูแลช้างอย่างถูกวิธีของควาญช้างไทยให้มีประสิทธิภาพสอดคล้องกับยุคสมัย ทั้งยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณี ภูมิปัญญาของการฝึกช้างจากรุ่นสู่รุ่นเพื่อให้เกิดการยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ เกี่ยวกับวิธีการฝึกช้างเชิงบวกที่คำนึงถึงหลักสวัสดิภาพสัตว์เป็นหลัก เพื่อให้ช้างและคนสามารถอยู่ร่วมกันได้ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มศักยภาพของควาญช้างไทยให้เป็นที่ยอมรับ สามารถตอบคำถามแก่นักอนุรักษ์สัตว์ และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่สังคมมากยิ่งขึ้น
2. วัตถุประสงค์
2.1 เพื่อฝึกสอนช้างของสถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ, ช้างเอกชน, ช้างบริจาค, ช้างของกลาง, ช้างระหว่างคดี, ช้างตกเป็นของแผ่นดิน, ช้างเจ้าของฝากเลี้ยง และช้างที่ผ่านการฝึกมาแล้วมาฝึกเพิ่มความสามารถพิเศษ หรือช้างที่ผ่านการฝึกมาแล้วแต่ยังมีนิสัยดื้อ ดุร้าย ไม่เชื่อฟังควาญ ให้มีพฤติกรรมที่ดีขึ้นเพื่อใช้ในการท่องเที่ยว และเพื่อง่ายต่อการดูแลรักษาหากเกิดเจ็บป่วย
2.2 ช่วยให้ช้างเลี้ยงของไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดี และสามารถอยู่ร่วมกับสังคมไทยได้อย่างมีความสุข
2.3 เพื่อสร้างบุคลากร คนดูแลช้างให้มีคุณภาพ พร้อมทั้งความรู้ สติปัญญาและจิตใจ อนุรักษ์ช้าง
2.4 เพื่อให้ควาญช้างได้เรียนรู้การฝึกสอนช้างอย่างถูกวิธี มีแบบแผน ไม่เป็นการทรมานช้าง
2.5 เพื่อเป็นการรักษาและสืบทอดภูมิปัญญาการเลี้ยงช้างแบบผสมผสานในแบบวิถีไทยที่ตระหนักถึงสวัสดิภาพช้างเป็นสำคัญ
2.6 เพื่อเป็นแบบอย่างการเลี้ยงช้างที่เหมาะสมกับสภาพสังคมปัจจุบัน ให้กับสังคมคนเลี้ยงช้าง
3. ผู้เข้าร่วมโครงการ
ช้างจากปางช้างเอกชน ช้างหน่วยงานราชการ และช้างของสถาบันคชบาลแห่งชาติฯ
4. ระยะเวลาในการดำเนินการ
ระหว่างเดือนตุลาคม 2566 – กันยายน 2567
5. สถานที่จัดฝึกตามโครงการฯ
สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้
6. ผู้รับผิดชอบโครงการฯ
งานโรงเรียนฝึกควาญช้างและช้าง สถาบันคชบาลแห่งชาติในพระอุปถัมภ์ฯ องค์กาอุตสาหกรรมป่าไม้
7. ผลที่คาดว่าจะได้รับ
7.1 มีช้างเลี้ยงทั้งของสถาบันฯและเอกชนที่ผ่านการฝึกสอนครบหลักสูตรของโครงการฯ อย่างน้อย 5 เชือก
7.2 ช้างเชื่อฟังควาญช้าง นิสัยดี
7.3 ช้างอยู่ร่วมกับคนได้อย่างมีความสุข สามารถแสดงออกพฤติกรรมได้ตามธรรมชาติ
7.4 การฝึกสอนอย่างนุ่มนวล ไม่ทรมานช้าง ใช้วิธีการฝึกเชิงบวก
7.5 ควาญช้างและช้างได้เรียนรู้การสื่อสารระหว่างกัน ขั้นตอนวิธีการดูแลอย่างถูกต้องตามแบบแผน
7.6 ควาญช้างมีทัศนคติที่ดีต่อการเลี้ยงช้างอย่างถูกวิธี
7.7 สามารถรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีการเลี้ยงช้าง ให้คงอยู่คู่กับคนไทยได้บนพื้นฐานของความเข้าใจในสวัสดิภาพของช้าง
7.8 สังคมไทยให้การยอมรับและสามารถต่อยอดทางธุรกิจเกี่ยวกับการดูแลช้างได้อย่างเมตตา และถูกต้องตามธรรมชาติของช้าง
7.9 เกิดความร่วมมือในการดำเนินงานระหว่างสถาบันฯ กับปางช้างต่างๆ และควาญช้าง
8. การประเมินโครงการ
8.1 แบบประเมินและแบบทดสอบช้างระหว่างการฝึก 7 วัน, 30 วัน
8.2 แบบประเมินผลหลังการฝึกช้าง 60 วัน
คุณสมบัติและหลักเกณฑ์ของช้างที่จะเข้าร่วมโครงการฝึกช้างและพัฒนาคุณภาพช้างเลี้ยง ( 5 เชือก ) งบอุดหนุนรัฐบาล ปี พ.ศ. 2567
- ช้างต้องมีอายุตั้งแต่ 3 ขวบขึ้นไป หรือ สัตวแพทย์และคณะกรรมการคัดเลือกได้พิจารณาแล้วเห็นควรให้เข้าฝึกได้ ในกรณีอายุยังไม่ครบ 3 ขวบ (ภายใต้ พระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัด สวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 )
- ช้างต้องมีตั๋วรูปพรรรณถูกต้อง ตรงกับช้าง (หากลูกช้างยังไม่มีตั๋ว ต้องนำตั๋วรูปพรรณของแม่ช้างมาประกอบและมีผู้นำท้องถิ่นหรือผู้ใหญ่บ้านรับรอง) หรือมีใบรับรองการตรวจดีเอ็นเอด้วย
- ช้างต้องอยู่ในราชอาณาจักรไทย
- เจ้าของช้าง หรือเจ้าของปางช้าง ต้องจัดหาควาญช้างมาอยู่ดูแลและฝึกสอนช้างตลอดหลักสูตร ทั้งนี้ สถาบันฯ สามารถยกเลิกบันทึกข้อตกลงทันทีและส่งช้างกลับภูมิลำเนา หากพบว่าไม่มีควาญช้างอยู่ดูแลในระหว่างการฝึก (ควาญช้างที่มาดูแลช้างต้อง ดูแลตนเองเรื่อง อาหารการกิน ทางสถาบันฯ ไม่มีค่าอาหาร เบี้ยเลี้ยงให้ มีเฉพาะที่พักและห้องน้ำให้)
- ช้างทุกเชือกที่สมัครเข้าโครงการฯ ต้องได้รับการตรวจสุขภาพร่างกาย เจาะเลือด จากสัตวแพทย์และคณะกรรมการพิจารณา คัดเลือกก่อนเข้าโครงการฯ ทุกครั้ง
- เจ้าของช้าง หรือเจ้าของปางช้าง หรือควาญช้าง ต้องยื่นใบคำร้องขอเข้าร่วมโครงการฯมายังสถาบันฯ ด้วยตนเองที่ สำนักงานโรงเรียนฝึกควาญช้างและช้าง ตามระยะเวลาที่กำหนด โดยการคัดเลือกจะพิจารณาจากคุณสมบัติ ความพร้อมของช้าง และเจ้าของช้างเป็นสำคัญ
- เริ่มรับใบคำร้องตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ในวันเวลาราชการ
เอกสารประกอบการรับสมัคร
- สำเนาตั๋วรูปพรรณช้าง จำนวน 3 ชุด (เจ้าของช้างรับรองสำเนาถูกต้อง) หรือสำเนาตั๋วรูปพรรณแม่ช้าง (หากลูกช้างยังไม่มีตั๋วรูปพรรณ) จำนวน 3 ชุด (เจ้าของช้างรับรองสำเนาถูกต้อง)
- สำเนาใบตรวจดีเอ็นเอช้างหรือแม่ช้าง จำนวน 3 ชุด (เจ้าของช้างรับรองสำเนาถูกต้อง) (ถ้ามี)
- สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านเจ้าของช้าง อย่างละ 3 ชุด (รับรองสำเนาถูกต้อง)
- ใบรับรองจากผู้นำชุมชน เช่น ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน เป็นต้นจำนวน 3 ชุด พร้อมสำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้าน อย่างละ 3 ชุด (รับรองสำเนาถูกต้อง)
สมัครได้ที่ โรงเรียนฝึกช้างและควาญช้าง สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ 272 หมู่ 6 ตำบลเวียงตาล อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง 52190
สอบถามได้ที่ สำนักงานโรงเรียนฝึกช้างและควาญช้าง โทรศัพท์ 054-829313 มือถือ 083-9195397
อีเมล์ [email protected] , [email protected]
Line ID: mahout
หมายเหตุ โครงการฯ นี้เป็นโครงการที่ได้รับงบประมาณจากรัฐบาล ซึ่งไม่มีการเรียกเก็บเงินใดๆ จากเจ้าของช้าง/เจ้าของปางช้าง หรือควาญช้างทั้งสิ้น